"ฉายเป็นชุด" พระจันทร์ฉาย คลองสวนพลูรีสอร์ท ไม่ขอท้าทายใคร แต่ถ้าใครมาท้าทายและเห็นว่าเหมาะสมก็แล้วแต่ลูกพี่ ไม่มีปัญหา

     หลังจากห่างหายจากสังเวียนมวยไทยไปนานกว่าปี พอกลับมาชกได้แค่ 2 ไฟต์ "ฉายเป็นชุด" พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม หรือเปลี่ยนสีเสื้อเป็น คลองสวนพลูรีสอร์ท ก็กลับคว้าเข็มขัดแชมป์รุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวตของเวทีลุมพินีมาครองได้อย่างง่ายดาย ด้วยการชนะคะแนนคู่ปรับคนเดิม เพชรสมาน ส.สมานการ์เม้นท์ ไปแบบซิวๆ ชนิดขาดลอยกว่าเดิม จากการชกเมื่อคืนวันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการชิงแชมป์ที่ว่าง ดูแล้วคงอีกนานกว่าจะมีภาค 3 ต้องรอให้เพชรสมานทำฟอร์มให้ร้อนจัดขึ้นมาอีกที

     หลังจากชกพระจันทร์ฉายที่คาดเข็มขัดลงจากเวทีก็ได้กล่าวขอบคุณใครต่อใครหลายคนที่ยังปลุกปั้นตนให้กลับมาผงาดขึ้นอีกครั้ง ส่วนการชกครั้งต่อไปก็แล้วแต่ผู้ใหญ่จะสั่ง

     อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ พระจันทร์ฉายเคยกล่าวว่าสำหรับตนนั้นความจริงชกในพิกัด 120 ปอนด์ยังทำได้สบายๆ และถ้าทำจริงๆ 118 ปอนด์ก็ยังได้ แต่ก็รู้ตัวเองดีว่าถ้าขืนชกพิกัดไม่เกิน 120 ปอนด์ ก็คงหาคู่ชกไม่ได้ต้องไปหากินอย่างอื่น ด้วยเหตุนี้จึงต้องแบกคู่ชกเรื่อยมา

     เมื่อถามว่าจับให้เจอ เขี้ยวพยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ จะเป็นเช่นไร พระจันทร์ฉายกล่าวว่า เดี๋ยวนี้เขี้ยวพยัคฆ์ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว สูงยาวใหญ่และเก่งมาก กับเขี้ยวพยัคฆ์ตนคิดว่า 121 ปอนด์ พอได้แต่ทั้งนี้ไม่ขอท้าทายใครทั้งสิ้น แต่ถ้ามีใครมาท้าทายก็พร้อมน้อมรับโดยขอชกตามพิกัดที่เหมาะสม

     "คือผมไม่อยาก และไม่เคยเอาเปรียบใครในเรื่องน้ำหนัก ผมมีแต่เสียเปรียบทั้งนั้น เพียงแต่หากผู้ใหญ่เขาเห็นว่าเหมาะสม ผมก็ชกที่สำคัญผมไม่เคยเที่ยวท้าทายใคร มีแต่หลายคนท้าทายผมเรื่องนี้ถามมาก็ตอบไปเท่านั้นเอง