ชายหล้า ภ.หลักบุญ สุดปลื้มเมื่อได้รับการบรรจุรับราชการเป็นตำรวจตามที่ตนเองใฝ่ฝันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ติดยศสิบตำรวจตรีประจำอยู่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เผยช่วงแรกๆอาจมีผลกระทบต่อการชกมวยอยู่บ้าง เนื่องจากต้องเข้าไปศึกษาเรียนรู้งาน แต่กระนั้นเรื่องมวยจะไม่ทอดทิ้ง สำหรับเสียงเรียกร้องที่อยากให้เจอกับ สมิงดำ ฉ.อจลบุญ ตนเองก็พร้อมเสมอแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับโปรโมเตอร์ต้นสังกัด
ในช่วงโควิด-19 ได้แพร่ระบาดไปทั่วทุกพื้นที่ของไทย ก็มีข่าวดีเกิดขึ้นอยู่บ้างเมื่อ ชายหล้า ภ.หลักบุญ นักชกแข้งหนักจากเมืองเลยได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นตำรวจ ซึ่งข้อเท็จจริงต่างๆทางด้านผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชายหล้าที่กำลังไปทำธุระที่บ้าน จ.เลย ว่า ตนเองเพิ่งผ่านการอบรมและได้รับการบรรจุเมื่อวันที่ 11 ม.ค.64 ที่ผ่านมาและเพิ่งไปรายงานตัวที่ สภ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อช่วงวันที่ผ่านมานี่เอง โดยชายหล้าที่ไฟต์ล่าสุดเพิ่งจะพ่ายแพ้ให้กับ รณชัย ต.รามอินทรา ได้กล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่ารู้สึกดีใจภูมิใจมาก เพราะอาชีพตำรวจเป็นสิ่งที่ตนเองใฝ่ฝันไว้นานแล้ว
"ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ น้าวุฒิ ภ.หลักบุญ ที่ช่วยจุดประกาย ขอบคุณท่านผู้การหลวง พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการภาค 3 ที่ให้การส่งเสริมผลักดันให้ผมเข้ารับการอบรมเป็นนายสิบ โดยอาชีพรับราชการทำให้เรามีหน้ามีตาในสังคม พ่อแม่พี่น้องพลอยดีใจไปด้วย โดยอาชีพนักมวยมีขีดจำกัดชกเพียงไม่กี่ปีก็ต้องเลิกราดังนั้นเราต้องหาอาชีพที่มั่นคงรองรับ ซึ่งก็ดีใจครับได้เป็นตำรวจสมความตั้งใจ ตอนนี้ผมได้รับการบรรจุติดยศสิบตำรวจตรี โดยเพิ่งเรียนจบ ปวส. ด้วยกำลังจะหาที่เรียนต่อเพื่อให้จบปริญญาตรี จากนั้นก็นำวุฒิไปเทียบลุ้นเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรครับซึ่งตอนนี้ก็ฝันไว้ก่อน"
"สำหรับการชกมวยก็อาจจะมีผลกระทบบ้างในช่วงแรกๆ เพราะผมต้องไปเรียนรู้ศึกษางานว่ามีอะไรบ้าง แต่เมื่อทุกอย่างลงตัว ผมก็จะกลับมาชกมวยเหมือนเดิมไม่ต้องห่วง เพราะปีนี้ผมเพิ่งจะ 22 ปีเอง ยังชกมวยหากินได้อีกหลายปี สำหรับเสียงเรียกร้องอยากให้เจอกับ สมิงดำ ฉ.อจลบุญ ที่เห็นว่ากำลังจะได้รับการบรรจุเป็นตำรวจเหมือนกัน ผมก็ยินดีและพร้อมเสมอ ซึ่งการได้เจอกับคนเก่งจะทำให้เราได้เรียนรู้ไปด้วย อย่างไรก็ตามทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับโปรโมเตอร์ต้นสังกัดครับว่าจะเห็นด้วยหรือไม่" ชายหล้า ภ.หลักบุญ หรือชื่อจริง สิบตำรวจตรีปฏิภาณ แท้สูงเนิน กล่าวตอนท้ายสุด