“พ่อของผม (ดำ ตาประโคน) ตัดสินใจทำค่ายมวยเล็ก ๆ ของตัวเองที่บ้าน ใช้ชื่อว่าค่ายมวยเกียรติฟ้าลิขิต ซ้อมกันเองภายในบ้าน มีนักมวยไม่กี่คน ส่วนใหญ่ก็เป็นญาติพี่น้องลูกหลาน และพ่อก็ดูแลผมมาตั้งแต่นั้น พาไปชก ไปเปรียบมวย พอมีรายการต่อย ผมก็จะย้ายไปซ้อมในกรมทหาร ที่มีค่ายมวยอยู่ในนั้น เพราะมีคู่ปล้ำคู่ซ้อม วันหนึ่งมีนายทหาร เขาเห็นผมมาซ้อมบ่อย จึงชักชวนให้เข้ามาต่อยเมืองกรุง ในสายเพชรยินดี จะเรียกว่าผมอยู่กับศึกเพชรยินดีมาตั้งแต่แรกก็ว่าได้ ไม่เคยเปลี่ยนไปไหน”
“สาเหตุที่ระยะหลังผมไม่แพ้ใคร ทั้งที่เป็นช่วงโควิด-19 ก็เพราะว่าผมอาศัยขยันซ้อมในช่วงที่คนอื่นเขาอาจจะไม่ได้ซ้อม หยุดอยู่ แต่ผมไม่หยุดซ้อม เพราะที่บ้านมีอุปกรณ์ไว้ซ้อมมวยอยู่ตลอด อีกอย่างผมเป็นคนไม่ชอบไปกินดื่ม ไปเที่ยวอยู่แล้ว ก็ให้เวลากับการฝึกซ้อมและพัฒนาตัวเองดีกว่า เพราะผมมองว่าในช่วงโควิด-19 ถ้าเราไม่ตั้งใจซ้อม ชกแล้วแพ้ผลงานไม่ดี โอกาสที่เขาจะไม่จัดเราขึ้นชกก็เป็นไปได้สูง ดังนั้นผมอยากมีรายการชกตลอด ผมก็ต้องซ้อม เพื่อจะได้ขึ้นไปชกแล้วทำผลงานออกมาดี โปรโมเตอร์เห็นแล้วก็อยากจะจ้างเราต่อ”
“มันเป็นความตั้งใจของผมอยู่แล้วครับที่ อยากกลับก้าวมาถึงจุดนี้ จากนักมวยที่ซ้อมบ้าน ๆ อยู่กับครอบครัว ผมก็ดีใจที่สามารถเอาชนะมวยเก่ง ๆ มาได้หลายคน แต่ผมก็ยังคงต้องเดินหน้าต่อไป กุญแจแห่งความสำเร็จของผม ผมคิดว่ามันคือ ระเบียบวินัยครับ ถ้าไม่มีวินัย ก็คงมาไม่ได้ไกลอย่างทุกวันนี้ครับ
ชัยชนะเหนือ ลำน้ำมูลเล็ก อ.อัจฉริยะ ยิ่งทำให้ชื่อของ ฟลุ๊คน้อย ฟลุ๊คบะหมี่เกี๊ยว เป็นที่สนใจของแฟนมวยยิ่งขึ้น เพราะ 10 ไฟต์หลังสุด เจ้าตัวไม่เคยแพ้ใครเลย แถมยังเป็นการคว้าชัยเหนือคู่ต่อสู้ไปได้ถึง 9 ไฟต์ เสมอเพียงหนเดียว และก็นี่คือคำพูดของ ฟลุ๊คน้อย ที่บอกถึงเบื้องหลังความสำเร็จที่เขาทำได้ในวันนี้