วัน แชมเปี้ยนชิพ (ONE Champion ship) ได้ประกาศว่าตัดสินใจเปลี่ยนแปลงศึก ONE:KING OF THE JUNGLE ในวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ ณ สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดี้ยม เป็นการแข่งขันแบบปิด โดยปราศจากแฟนๆ และสื่อมวลชลเข้าชมติดขอบเวที ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากสถานการณ์โรคระบาดไวรัสโคโรน่า (ชื่อย่างเป็นทางการ COVID-19) ในสิงคโปร์นั่นเอง
หลังจากกระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ได้ยกระดับสภาพระบบตอบสนองการแพร่ระบาดของโรค (DORSCON) จากสีเหลืองเป็นสีส้ม และยืนยันมีผู้ติดเชื้อ 75 ราย นายชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธานใหญ่ วันแชมเปี้ยนชิพ เป็นผู้ประกาศการเปลี่ยนแปลงนี้ผ่านโซเซียลมีเดีย หลังจากนั้นจึงได้มีการตอบคำถามสื่อมวลชนจากทั่วโลกผ่านการประชุมสายทางโทรศัพท์ จากสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าในสิงคโปร์ "ผมจำเป็นต้องตัดสินใจให้ศึก ONE:KING OF THE JUNGL ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เป็นการแข่งขันแบบปิด แต่ยังถ่ายทอดสดเท่านั้น สังเวียนสิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดี้ยม จะไม่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม แต่จะยังมีการแข่งขันต่อไปตามเดิมในสภาพปิดสนามพร้อมถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์และดิจิทัล แพลตฟอร์มอื่นๆ ไปยังมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลกตามเดิม" คุณชาตรีโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก
ด้านการจัดจำหน่ายตั๋วอย่างเป็นทางการของ ONE ในสิงคโปร์ โปรแกรมทุกคู่จะยังดำเนินต่อไปตามกำหนดเวลาเดิม และยังมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์และดิจิทัล แพลตฟอร์ม อื่นๆ ทั่วโลก รวมไปถึงทาง ONE Super App ด้วย
คู่เอกของศึก ONE:KING OF THE JUNGL จะเป็นการพบกันระหว่าง แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ สาวแกร่งชาวไทย ป้องกันเข็มขัดแชมป์ ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวตหญิง พบกับคู่ปรับเก่า เจเน็ต "J.T." ท็อดต์ ผู้ท้าชิงชาวสหรัฐอเมริกา
คู่รองของเวทีเดียวกัน สามเอ ไก่ย่างห้าดาว เจ้าของแชมป์ ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต จะล่าเข็มขัดเส้นที่สองในประเภทมวยไทยดวลกับ ร็อคกี้ อ็อกเดน กำปั้นชาวออสเตรเลีย
นักกีฬาดาวดังที่มีโปรแกรมขึ้นเวทีในรายการนี้ มีบรรดานักกีฬาขวัญใจเจ้าถิ่นอย่าง อาเมียร์ ข่าน ดีกรีอดีตผู้ท้าชิงแชมป์โลก ควงคู่มากับซุปตาร์กำปั้นสาวสิงคโปร์ ทิฟฟานี "No Chill" เตียว และ ราดีม ราห์มัน รวมไปถึงนักกีฬาที่ฝึกซ้อมเป็นหลักในสิงคโปร์อยู่แล้ว นั่นก็คือ ทรอย เวิร์ทเธน กับ ริตู "The Indian Tigress" โฟกาด
"ผมอยากจะบอกว่า มีเพียงความรัก, ความเมตตา และความสามัคคีเท่านั้นที่จะทำให้สิงคโปร์ ในฐานะประเทศและทวีปเอเชียผ่านพ้นเอาชนะไวรัสโคโรน่าได้"
คุณชาตรียังเผยอีกว่า แม้ที่สิงคโปร์จะแข่งขันแบบปิด แต่รายการอื่นๆ ที่เคยประกาศไว้จะยังไม่มีกำหนดการเปลี่ยนแปลงใดๆ และวันแชมเปี้ยนชิพ ยังคงยึดมั่นในการจัดแข่งขันอย่างน้อย 50 รายการภายในปีนี้เช่นเดิม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าหากสถานการณ์ในอนาคตมีการเปลี่ยนแปลง กิจกรรมต่างๆ ก็อาจถูกปรับเปลี่ยนได้เช่นกัน