หลังจากเสร็จศึกที่ผลการแข่งขันค่อนข้างเซอร์ไพรส์วงการคิกบ๊อกซิ่งโลกไม่น้อยสำหรับ เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส ที่พ่ายน็อก กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี่ ตั้งแต่หมัดแรกในไฟต์ประเดิมเวทีวันแชมเปี้ยนชิพ ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมายอมรับว่ารู้สึกเสียดายมากที่ยังไม่ทันได้โชว์สกิลคิกบ็อกซิ่งระดับแชมป์โลกให้แฟนๆ ได้ชมเลย

   ในเกมการแข่งขันศึก ONE A NEW BREED III เมื่อวันศุกร์ที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมาระหว่าง กัปปิกัน เพชรยินดีอะคาเดมี่ พบกับนักมวยรุ่นพี่ เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส โดยคู่นี้เกมจบลงอย่างเหนือความหมายสุดๆ เพราะก่อนชกแฟนมวยส่วนใหญ่ต่างเทใจให้เพชรทนง ซึ่งมีประสบการณ์บนสังเวียนกว่า 400 ไฟต์ ในขณะที่ กัปปิตัน เพิ่งเคยชิมลางชกกติกาคิกบ๊อกซิ่งไปเพียงไฟต์เดียวในชีวิต

   ย้อนไปในศึกวันนั้น หลังสิ้นเสียงระฆังดังเริ่มชก ทั้งคู่เดินมาสัมผัสมือกัน จากนั้นก็ถอยออกไปเพื่อตั้งหลัก แต่แล้วกัปปิตันเป็นฝ่ายเดินเข้ามา ส่งหมัดซ้ายเข้าไปทักทายและปัดหมัดขวาของเพชรทนง ก่อนสวนด้วยฮุกขวาเข้าเต็มหน้าเพชรทนงอย่างจังจนล้มตึงกลางเวที ด้วยเวลาเพียง 6 วินาที ซึ่งถือเป็นสร้างสถิติใหม่ในการปิดเกมเร็วที่สุดของกติกาคิกบ๊อกซิ่ง วัน แชมเปี้ยนชิพ เลยทีเดียว

   หลังจบการแข่งขัน เพชรทนงเปิดใจให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "จริงๆ ตอนนั้นเหมือนผมเข้าไปจับมือเขาเสร็จ และเพียงแค่เสี้ยววินาทีมันก็วูบไปเลย แค่นั้นเองครับ พอจะลุกขึ้นกรรมการก็บอกไม่ต้องลุกขึ้นแล้ว ซึ่งตอนนั้นผมไม่ได้รู้สึกมึนหรือหลับไปเลย คิดว่ามันเร็วเกินไป แต่ไม่เป็นไรครับ แค่รู้สึกเสียดายที่ผมยังไม่ได้โชว์สกิลด้านคิกบ๊อกซึ่งเลย"

   "ไฟต์นี้ผมมาเป็นมวยแทน รู้ตัวล่วงหน้าไม่ถึงอาทิตย์ ซ้อมจริงๆ ประมาณ 4-5 วัน โอกาสหน้าผมอยากมีเวลาเตรียมตัวให้มากกว่านี้ และอยากโชว์ให้ทุกคนเห็นว่าสไตล์คิกบ๊อกซิ่งจ๋าๆ ของผมที่ฝึกมาเป็นอย่างไร ถ้าชกคิกบ๊อกซิ่งต้องซ้อมแบบไหนผมแค่ต้องการสื่อสารตรงจุดนี้ และอยากชี้ให้เห็นว่าถ้ามีวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วย มันจะเกิดประสิทธิภาพมากขึ้นโดยที่ร่างกายไม่ทรุดโทรมครับ"

   "ผมได้เห็นจุดบกพร่องตรงนี้แล้ว ส่วนจะแก้มือไหม จริงๆ ผมชกคิกบ๊อกซิ่งกับใครก็ได้ครับ ไม่ได้หวังผลตรงนั้น ผมแค่อยากโชว์สกิล และพยายามไต่อันดับขึ้นไปเพื่อไปชิงแชมป์รายการนี้ครับ" ยอดกำปั้นจอมเก๋าวัย 34 ปีกล่าว