บัวเขียว ป.เปาอินทร์ ได้ กุมารดอย เพชรเจริญวิทย์ มาช่วยปล้ำเสริมแกร่ง หวังคว้าแชมป์มวยรอบท็อปวัน มวยมันส์พันธุ์ดุ ครั้งที่ 2 พร้อมล้างแค้นเอาชนะ เดชฝั่งโขง จอห์นเอ.เอ็ม.เอ. ให้ได้อีกด้วย ด้าน พล.ต.ต.ประจวบ เปาอินทร์ เผยมวยคู่นี้ใครชนะก็ดีใจและเป็นปลื้มในความสำเร็จ เพราะเป็นมวยในสังกัดทั้งคู่
สิ้นสุดการรอคอย หลังจากที่ศึกจ้าวมวยไทยมวยรอบท็อปวัน มวยมันส์พันธุ์ดุ ครั้งที่ 2 เดินหน้ามาจนถึงนัดชิงชนะเลิศ ในวันเสาร์ที่ 13 มีนาคม 2564 ซึ่งเป็นการชิงแชมป์กันระหว่างนักชกจาก สปป.ลาว เดชฝั่งโขง จอห์น เอ.เอ็ม.เอ. ชิงแชมป์กับ บัวเขียว ป.เปาอินทร์ ในพิกัด 135 ปอนด์ ซึ่งคู่นี้เคยเจอกันมาแล้วครั้งหนึ่งในรอบคัดเลือกเดชฝั่งโขงเป็นฝ่ายเอาชนะบัวเขียวไปได้ กลับมาไฟต์นี้มีแชมป์มวยรอบท็อปวัน มวยมันส์พันธุ์ดุ ครั้งที่ 2 เป็นเดิมพัน เชื่อว่าต้องไม่มีใครยอมใครและสนุกเร้าใจอย่างแน่นอน หากใครคว้าแชมป์ก็จะได้รับเงินรางวัลถึง 600,000 บาท พร้อมทั้งถ้วยเกียรติยศ
ซึ่งความพร้อมล่าสุดของ บัวเขียว ป.เปาอินทร์นั้นกำลังปักหลักฟิตซ้อมอย่างหนักอยู่ที่ ป.เปาอินทร์+เอ็นแอนด์พีบ๊อกซิ่ง โดยมี ป๊อก มหาชัย เป็นผู้ควบคุมดูแลฟิตซ้อม อีกทั้งยังได้ กุมารดอย เพชรเจริญวิทย์ มาช่วยปล้ำเสริมความแข็งแกร่ง โดยบัวเขียวนั้นได้เปิดใจกับสื่อถึงการเข้ารอบชิงฯ ในครั้งที่จะเจอกับคู่ปรับเก่าอย่าง เดชฝั่งโขง จอห์น เอ.เอ็ม.เอ. ว่าการแพ้ครั้งที่แล้วคืออดีต ส่วนวันเสาร์นี้ต่างกันเป็นอย่างมาก เพราะมีแชมป์เป็นเดิมพันและตนเองจะพยายามเต็มที่เพื่อคว้าแชมป์ให้ได้
"ถึงแม้ผมจะเคยแพ้ให้กับเดชฝั่งโขงมาก่อน แต่ในวันเสาร์นี้ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าผมจะแพ้อีก ซึ่งผมไม่ยอมแพ้แน่นอน จะเอาแชมป์และล้างแค้นให้ได้ครับ ส่วนตอนนี้ก็ได้กุมารดอยมาช่วยปล้ำทำให้ทั้งเหลี่ยมเชิงและพละกำลังดีขึ้นกว่าเดิมมากมั่นใจคว้าแชมป์แน่นอน ฝากแฟนมวยเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ"
ทางด้าน พล.ต.ต.ประจวบ เปาอินทร์ เผยมวยคู่นี้ใครชนะก็ดีใจและเป็นปลื้มในความสำเร็จเพราะเป็นมวยในสังกัดทั้งคู่
"ศึกครั้งนี้ใครจะชนะใครจะได้แชมป์ก็ดีใจทั้งนั้นเพราะเป็นมวยในสังกัด แต่เชื่อว่าหากใครตั้งใจฟิตซ้อมมากกว่ากันโอกาสในการคว้าแชมป์ก็อยู่แค่เอื้อมแล้วครับ ขอให้ทั้งสองทำให้เต็มที่เพื่อแฟนมวยจะได้ดูคู่มวยที่สนุกตื่นเต้นครับ"