ยอดเงินเยียวยาครอบครัว "จอมจุมพิต" แสงเทียนน้อย ส.รุ่งโรจน์ และ "ขาตั้งสู้" มาโนช บัวบุศย์ ยังหรอมแหร็ม ทั้งที่เป็นการสูญเสียบุคลากรที่สำคัญถึงสองคนของคนในวงการมวยโดยตรง ชี้อาจเป็นเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสถานที่จัดงานอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม ขณะที่สมาคมกีฬามวยนายขนมต้มของ "พยัคฆ์มาด" สามารถ พยัคฆ์อรุณ รุดเข้าช่วยเหลือเป็นด่านแรกในเบื้องต้น
สืบเนื่องมาจากกรณีการเสียชีวิตของ "เจ้าตู่-จอมจุมพิต" แสงเทียนน้อย ส.รุ่งโรจน์ อดีตนักมวยไทยและหัวหน้าคณะค่ายมวยชื่อดัง ที่ได้ปลิดชีวิตตัวเองลง ด้วยการใช้อาวุธปืนยิงตัวตายเมื่อเช้าวันที่ 16 พฤษภาคม 2564 ที่ค่ายมวยท.แสงเทียนน้อย ใน ต.เชียงราก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จนเป็นข่าวช็อกคนในวงการมวย และการเสียชีวิตของ "ขาตั้งสู้" มาโนช บัวบุศย์ อดีตเจ้าของค่ายมวยลูกมิ่งขวัญ ซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อตาของแสงเทียนน้อย โดยทางมาโนชได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ด้วยอาการไตวายก่อนหน้านั้นเพียงหนึ่งวัน ซึ่งนับเป็นการสูญเสียบุคลากรที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งของวงการมวยก็ว่าได้
โดยความเคลื่อนไหวล่าสุด "เจ๊ปุ๊ก" ปิยะชุลี บัวบุศย์ ซึ่งเป็นภรรยาของแสงเทียนน้อยและเป็นลูกสาวของ มาโนช บัวบุศย์ ผู้ซึ่งได้เสียชีวิตไปนั้น ก็ได้เผยถึงการเยียวยาในเบื้องต้นจากคนในวงการมวยในครั้งนี้ว่า มีการทยอยช่วยเหลือจากคนในวงการมวยอยู่บ้าง แต่บางคนก็ไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานได้ จะมีบ้างที่ร่วมแสดงความเสียใจทางโทรศัพท์และโอนช่วยเหลือผ่านทางบัญชี เนื่องจากสถานการณ์ที่จัดงานศพ จัดอยู่ในพื้นที่ควบคุมสีแดงของโรคระบาดโควิด-19 โดยบุคคลที่ให้การช่วยเหลือมาในเบื้องต้นก็มีทาง สามารถ พยัคฆ์อรุณ นายกสมาคมกีฬามวยนายขนมต้มที่ตอนนี้เจ้าตัวอยู่ที่อเมริกา ได้มอบในนามของสมาคมและมอบส่วนตัว โดยมี พฤหัสน้อย ศิษย์ขุนทอง และ ผุดผาดน้อย วรวุฒิ เป็นคนดำเนินการให้ พร้อมกันนั้นยังมีโปรโมเตอร์ ทรงชัย รัตนสุบรรณ, สจ.วิชิต แปดริ้ว, สมจิตร แว่นแก้ว และซ้อเอ๋ จิตรเมืองนนท์ ให้การช่วยเหลือในขั้นต้นขณะที่โปรโมเตอร์คนอื่นๆ ส่วนใหญ่จะร่วมแสดงความเสียใจ มาในรูปแบบของพวงรีดจนคับคั่งศาลาสวดศพ ซึ่งตนต้องขอกราบขอบพระคุณจากใจผ่านสื่อด้วย