ความพ่ายแพ้ในเกมหนึ่ง อาจไม่สำคัญเท่ากับการที่ “ผู้แพ้” คนนั้นสามารถกลับอยู่บนสังเวียนการต่อสู้ได้อีกครั้ง ทั้งที่หากย้อนกลับไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ เขาแทบไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะกลับมาเป็นนักกีฬาได้อีกแล้ว รุ่งราวี เกียรติบุญเกิน หรือ รุ่งราวี ศศิประภายิม คือชื่อของนักมวยคนนั้น ในอดีตเขาคือดาวดังมวยไทย เจ้าของเข็มแชมป์ เวทีมวยช่อง 7 สี รุ่น 126 ปอนด์ รวมถึงมีโอกาสได้ไปชกต่างประเทศบ่อยครั้ง 

อย่างไรก็ดีในวัย 28 ปี รุ่งราวี ตัดสินใจแขวนนวม และทำงานเป็นเทรนเนอร์ กระทั่งเมื่อช่วง 3 เดือนก่อนมีข่าวลือออกมาว่า ติดสุราอย่างหนักจนร่างการเสื่อมโทรม ซ้ำร้ายยังมีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับโรคผิวหนัง จนมีกระแสว่า “รุ่งราวี” อดีตนักมวยไทยชื่อดังตอนนี้กำลังตกอับ โดย รุ่งราวี ยอมรับว่าตัวเองดื่มหนัก เพราะตนเองมีความเครียด เจอปัญหาหลายอย่างในชีวิตรุมเร้า แต่หลังจากนี้ ตนเองจะตัดสินใจเลิกสุรา และหันกลับมาดูแลตัวเอง เพราะมีเป้าหมายคือการชกมวยอีกหน แม้ว่าอายุอานามจะปาเข้าไป 33 ปีแล้ว แถมยังห่างสังเวียนไปนานถึง 5 ปี แต่ รุ่งราวี พยายามฟื้นฟูร่างกายที่เสื่อมโทรมให้กลับมาเพื่อพร้อมสำหรับชกมวยอีกครั้ง และเขากลับเนื้อกลับตัว หันหลังให้อบายมุข 

จากสภาพร่างกายที่ไม่เหลือสภาพนักชกเมื่อ 3-4 เดือนก่อน “รุ่งราวี” ก็ค่อย ๆ ฟื้นฟู จนกลับมาดูเป็น รุ่งราวี คนเดิมสมัยที่ชกมวยดัง ๆ เขาชนะใจตัวเอง และเมื่อคนในวงการทราบข่าวก็ต้องพยายามหยิบยื่นโอกาสให้อีกครั้ง อาทิ มาเทียส เซเวนมวยไทย ได้ชวนให้เข้าไปเป็นคู่ซ้อมที่ค่าย เซเวนมวยไทยยิม รวมถึงโปรโมเตอร์จัดมวยฝรั่งกัมพูชา ก็ทาบทามให้ “รุ่งราวี” กลับมาสู้ต่อบนผืนผ้าใบอีกหน โดยในการชกไฟต์ล่าสุด รุ่งราวี พบกับ อมรินทร์ ภู่ทอง นักชกเจ้าถิ่น ผลปรากฏว่า รุ่งราวี พ่ายสังขารแพ้ไป แต่หลังเกมเจ้าตัวก็โพสต์ถึงความรู้สึกที่แพ้ในการแข่งขัน แต่ก็เป็นอะไรที่น่ายินดีคือ รุ่งราวี ในวัย 33 ปี กลับมามีไฟลุกโชน พร้อมกลับมาลุยต่อบนเส้นทางนักมวยไทยอาชีพ 

“ผมกราบขอโทษแฟนคลับ ทุกคนด้วยน่ะคับและขอโทษทีมงาน เกียรติบุญเกิน ผมสู้เต็มที่แล้วคับ ผมหยุดไปนาน5ปี กว่ากลับมาชกได้ขนาดนี้ผมถือว่าร่างกายผมยังชกได้อีกนานอยู่คับ ชกอีกครั้งสองครั้งร่างกายคงจะกลับมาเดือดได้เหมือนเดิมแน่นอนคับ"

แม้ว่าจะไม่ได้รับการชูมือเป็นผู้ชนะบนเวที แต่อย่างน้อยในสังเวียนชีวิตจริง รุ่งราวี ก็สามารถชนะใจตัวเองและกลับมาที่ยืนอย่างสง่างามในสังคมกำปั้นได้อีกครั้ง